Doctor Ton Clinic
Aging Gracefully by Artful Craftsmanship
NEW THERMAGE FLX
สวัสดีครับ วันนี้หมอจะมาพูดคุยกันถึงเรื่องที่มีคนถามกันมาบ่อยเกี่ยวกับ Thermage FLX USA ( เทอร์มาจรุ่นใหม่ล่าสุด ) โดยเรียงหัวข้อดังนี้ครับ
- 1. Thermage USA มีมาแล้วทั้งหมดกี่รุ่น รุ่นใหม่ล่าสุดคือรุ่นไหน ? จะทำ Thermage ที่ไหนดี ?
- 2. ทำ Thermage FLX เจ็บไหม ?
- 3. ข้อดีของ Thermage FLX เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ?
- 4. ทำ Thermage FLX ราคา เท่าไหร่ ?
- 5. หลักการทำงานของ Thermage FLX โดยละเอียด พร้อมทั้งตัวอย่างเคส
(ภาพประกอบนี้ถ่ายในปีที่ยังไม่มีโควิด-19 ถ้าปัจจุบันจะมีการป้องกันเข้มข้นครับ)
1. Thermage ( เทอร์มาจ ) มีมาแล้วทั้งหมดกี่รุ่น รุ่นใหม่ล่าสุดคือรุ่นไหน และจะทำ Thermage ที่ไหนดี ?
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า Thermage โดยพื้นฐานแล้วเป็นเทคโนโลยีของ USA แต่เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และได้ผลการรักษาที่ดี จึงมีการพยายามสร้างเครื่องมืออื่นขึ้นมาเลียนแบบและตั้งชื่อว่า Thermage โดยไม่ได้มาจาก USA ปัจจุบันเราจะพบเห็นได้ทั่วไป (พบมากกว่า Thermage ของแท้จาก USA เสียอีก) ส่วนนี้เราจะไม่พูดถึงครับ
Thermage ของแท้จาก USA จะมีทั้งหมด 4 generation ดังภาพด้านบน มีการพัฒนามาเรื่อยๆให้เจ็บน้อยลงและเห็นผลมากขึ้น รุ่นล่าสุดตอนนี้เป็นรุ่น FLX ครับ มาดูกันว่ารุ่นนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง
จุดเด่น Thermage FLX
1. เห็นผลการรักษาที่เร็ว
และมากกว่าเดิม เนื่องจากมีการปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแบบ real-time ทำให้ปล่อยพลังงานได้เที่ยงตรงแม่นยำมากขึ้น
2. เจ็บน้อยกว่า
ด้วยระบบหัวสั่นแบบนุ่มนวลและหลายทิศทาง
3. ใช้เวลาในการทำเร็วขึ้นกว่าเดิม
ด้วยหัว Tips รุ่นใหม่สีม่วง และยังสามารถปล่อยพลังงานลงได้ลึกกว่าเดิมอีกด้วย
” สรุปสั้นๆ คือ ลึกกว่า เร็วกว่า สบายกว่าครับ ^^ ”
คำถามต่อไป ทำ New Thermage FLX ที่ไหนดี ?
ในส่วนของการทำ Thermage มีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกันในแต่ละที่ครับ สำหรับคลินิกหมอ เราใส่ใจให้ความสำคัญกับส่ิงต่างๆเหล่านี้ครับ
1. คนไข้ทุกเคสหมอจะรักษาคนไข้ด้วยตัวเอง เพื่อควบคุมคุณภาพการรักษา
2. นอกจากเครื่อง Thermage จะเป็นเครื่องแท้จาก USA แล้ว เรายังใช้รุ่นใหม่ล่าสุด FLX และหัว tips ที่คลินิกเราใช้จะเป็นหัวสีม่วงซึ่งเป็นหัวรุ่นใหม่ สามารถกระจายพลังงานได้ดีและลงลึกกว่ารุ่นเก่า มีระบบสั่นรอบหลายทิศทางเจ็บน้อยลงและจากประสบการณ์พบว่าเห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นกว่าเดิมครับ
3. ระหว่างการรักษาจะมีการปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับความรับได้ของคนไข้แต่ละคนซึ่งแตกต่างกัน เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์รักษาที่ดีที่สุด ทำให้ Thermage ไม่เจ็บอย่างที่คิด
4. หลังจากรักษาไปแล้ว เรามีการติดตามผลระยะยาว คนไข้มีอะไรต้องการซักถามหรือปรึกษา สามารถปรึกษากับหมอได้โดยตรงตลอดเวลา โดยไม่ต้องผ่านพนักงานครับ
5. ทุกโปรแกรมที่มีการรักษาในคลินิก หมอได้ใช้ในการดูแลตัวเอง และคนในครอบครัวทั้งสิ้นครับ
รูปด้านล่างนี้คุณแม่ของหมอเองครับ ปัจจุบันหมออายุเกือบ 40 ปี คุณแม่อายุ 60 กว่าปี แต่ละช่วงอายุก็มีการดูแลที่แตกต่างกันไปในรายละเอียด แต่ที่เหมือนกันคือเราทั้งคู่ก็ทำเครื่องยกกระชับกันทุกปีครับ
2. ทำ Thermage FLX ( เทอร์มาจ ) เจ็บไหม ?
เครื่อง Thermage ปัจจุบันมีการอัพเกรดให้เจ็บน้อยลงแล้ว บางคนอาจเคยได้ยินเพื่อนบอกว่าเจ็บตอนทำ ตรงนั้นอาจจะเป็นเครื่องรุ่นเก่าและนอกจากนี้ดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่คลินิกมีระบบ PMS ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางคลินิกในการลดความเจ็บ โดยส่วนตัวหมอคิดว่ากดสิวฉีดสิวยังเจ็บเสียกว่า หรือการทำเลเซอร์กำจัดขนก็ยังเจ็บกว่าหลายเท่าครับ ^_^
3. ข้อดีของ Thermage FLX ( เทอร์มาจ ) เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆ ?
แตกต่างจากการดึงหน้าด้วยการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดทำให้มีใบหน้าที่ผิดเพี้ยนไปไม่เหมือนเดิมและส่วนมากต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวนาน
แตกต่างจากการร้อยไหม เพราะการทำ Thermage ไม่ได้มีการใส่สารใดๆเข้าไปสู่ผิวหน้า และให้ผลแบบธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาผิวยู่แบบไม่ธรรมชาติ หรือใบหน้าผิดรูปที่อาจเกิดจากการร้อยไหมอีกด้วย
แตกต่างจากเครื่องยกกระชับอย่างอื่น เพราะให้ผลการรักษาอยู่ได้นานถึง 1 ปีต่อการทำเพียง 1 ครั้ง ไม่ต้องทำบ่อยๆ และมีงานวิจัยรองรับมากมาย มี US FDA รับรองด้านประสิทธิภาพในการยกกระชับและความปลอดภัยอีกด้วยครับ
สำหรับข้อเสียของ Thermage ก็คือผลลัพธ์ยังสู้การผ่าตัดไม่ได้ ถ้าสมมุติเราต้องการหน้าตึงยกขึ้นมากๆ แบบผ่าตัดดึงหน้า Thermage อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับเรา … แต่ถ้าเราต้องการยกกระชับแบบธรรมชาติ หน้าไม่เพี้ยน ไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรใต้ผิว ไม่ต้องกรีด ไม่ต้องเย็บ ไม่ต้องพักงาน หมอคิดว่า Thermage เป็นเทคโนโลยีที่ดีมาก น่าจะตอบโจทย์ได้ครับ
ด้านล่างเป็นรูปแท่นแก้วซึ่งจะมีเฉพาะในคลินิกที่ใช้เครื่องยกกระชับของแท้จากอเมริกาครับ
4. ทำ Thermage FLX ( เทอร์มาจ ) Promotion ราคาเท่าไหร่ ?
ท่านใดสนใจสามารถสอบถามราคาโปรที่ดีที่สุดเดือนนี้ของ Thermage FLX ได้ทางไลน์นี้ครับ
5. หลักการทำงานของ Thermage FLX โดยละเอียด พร้อมทั้งตัวอย่างเคสรีวิว
เมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนจะสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงปริมาณคอลลาเจนชั้นผิวจะลดลง เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย เทอร์มาจจะใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ ที่เรียกว่า Capacitive Monopolar Coupled Radiofrequency เหนี่ยวนำให้เกิดความร้อนในผิวชั้นลึก กระตุ้นให้คอลลาเจนเกิดการกระชับตัวและเร่งการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาด้วยครับ
New Thermage FLX สามารถกระจายความเย็นเพื่อปกป้องผิวชั้นบน ในขณะเดียวกันก็ส่งผ่านพลังงานเข้มข้นเพื่อให้เกิดความร้อนในผิวหนังชั้นแท้และเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังไปพร้อมๆกัน ทั้งนี้ระหว่างปล่อยพลังงาน สามารถเปิดระบบสั่นเพื่อช่วยลดความเจ็บได้ด้วยครับ ดังรูปด้านล่างนี้
ระหว่างรักษา
ทุกครั้งที่ผิวสัมผัสกับอุปกรณ์ในการรักษาคนไข้จะรู้สึกเย็นและหัวtipจะสั่นเล็กน้อยแบบสบายๆ และรู้สึกอุ่นลึกๆข้างใน ความรู้สึกเย็นอย่างต่อเนื่องจะช่วยปกป้องผิวชั้นบนและช่วยให้การรักษานั้นสบายขึ้นครับ ผลการวิจัยพบว่า รุ่นใหม่นี้มีความเจ็บลดลงเมื่อเทียบกับ thermage รุ่นก่อนหน้านี้ ตลอดการรักษาจะมีการคอยสอบถามเกี่ยวกับระดับความร้อนอยู่เสมอเพื่อให้อยู่ในระดับที่ความรู้สึกคนไข้สามารถรับได้ ขณะเดียวกันก็ไม่ต่ำจนเกินไป ขั้นตอนในการทำจะใช้เวลาตั้งแต่ 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง 30 นาทีครับ
การดูแลผิวหลังการรักษา
ไม่มีข้อควรระวังเป็นพิเศษในการดูแลผิวหลังการรักษาด้วยเทอร์มาจ คนไข้สามารถทำกิจกรรมและดูแลผิวได้ตามปกติ เช่น การแต่งหน้า ทาครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด หรือทำงานได้ตามปกติครับ ทั้งนี้ควรหยุดพักทำทรีทเมนต์หรือเลเซอร์อื่นๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังการรักษา
การรักษาจะให้ผลที่ดูเป็นธรรมชาติ ในวันแรก ๆ อาจมีเราเพียงคนเดียวที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลง ครอบครัวและเพื่อนๆ ของอาจทักว่าดูเหมือนได้พักผ่อนอย่างเต็มที หรือถามว่าน้ำหนักลดหรือเปล่า การเปลี่ยนแปลงจะค่อยเป็นค่อยไป เริ่มเห็นผลชัดเจนในเดือนที่ 2 และเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ในเดือนที่ 6 ผลการรักษาจะให้ผลที่คงอยู่ได้นานเป็นปี เคยมีรายงานในบางเคสผลการรักษาอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยระยะเวลาที่ผลคงอยู่จะขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และรูปแบบการใช้ชีวิตของเราครับ
คนไข้ที่ผ่านการทำเทอร์มาจจะมีคอลลาเจนที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้นทุกคน ส่วนระดับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจนมองเห็นได้นั้นจะแตกต่างกันไป สิ่งที่เราสังเกตได้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องผิวที่เรียบเนียนขึ้น สดใสแลดูอ่อนเยาว์ ใบหน้ายกกระชับและเรียวขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น คนที่มีหนังตาตกและผิวเปลือกตามีรอยย่นก็จะดีขึ้นด้วยครับ
การรักษานั้นเหมือนกับการตั้งเวลาย้อนหลัง แต่ไม่ได้หยุดเวลานะครับ ^_^
ตัวอย่างเคสในงานวิจัย
ผลการรักษาอาจแตกต่างกันไป ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล สามารถขอดูตัวอย่างเคสรีวิวที่คลินิกเพิ่มเติมได้ทางไลน์นี้ครับ
Doctor Ton Clinic
Aging Gracefully by Artful Craftsmanship